หัวข้อ
- #ยูทูเบอร์
- #ค่านิยม
- #การขายความสำเร็จ
- #การปลอมแปลง
- #การหลอกลวง
สร้าง: 2024-06-26
สร้าง: 2024-06-26 11:45
คดีการปลอมแปลงความคิดเห็นและจำนวนผู้ชมของยูทูเบอร์
กลอุบายการหลอกลวงที่เริ่มต้นด้วยคำว่า 'หลงเชื่อ'
เชื่อมโยงกับวิธีการที่สัญญาว่าจะช่วยเหลือ
วิธีการหาเงินโดยใช้ประโยชน์จากความไม่มั่นคง
“ผมเป็นคนจนและเป็นคนเก็บตัวมาก่อน แต่ตอนนี้ผมประสบความสำเร็จแล้ว อายุ 30 ผมอยู่คอนโดริมแม่น้ำฮันและขับรถพอร์เช่ ใครๆ ก็สามารถหาเงินได้เดือนละ 10 ล้านวอนถ้าทำตามผม”
ยูทูเบอร์ที่เรียกตัวเองว่า 'ผู้ขายความสำเร็จ' ซึ่งส่งข้อความลักษณะนี้พร้อมกับขายหลักสูตรและการให้คำปรึกษา กำลังเผชิญกับวิกฤต 'ผู้ขายความสำเร็จ' หมายถึงบุคคลที่โอ้อวดหรือแต่งเติมประสบการณ์ความสำเร็จของตนเองเพื่อขายในรูปแบบของหลักสูตร หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ
สาเหตุของวิกฤตของพวกเขานั้นอยู่ที่ 'ตัวเลขที่ถูกอวดอ้างหรือไม่ได้รับการตรวจสอบ' 'รายได้ต่อเดือนหนึ่งพันล้าน วินาทีละ 50 ล้านวอน ขายได้ 20 พันล้านวอน' ฯลฯ ตัวเลขที่ไม่ได้รับการรับรอง หลายคนขอให้พวกเขาแสดงหลักฐานจากกรมสรรพากร และเมื่อพวกเขาไม่ตอบสนองต่อเรื่องนี้ รวมถึงมีพยานหลักฐานที่แสดงว่าเป็นเท็จ ทำให้เกิดคดีขึ้น
คดี 'การปลอมแปลงความคิดเห็นและจำนวนผู้ชมในกลุ่มคาเฟ่เนเวอร์' ของยูทูเบอร์คนหนึ่งที่มักพูดถึงเรื่องราวความสำเร็จของธุรกิจขนาดเล็กก็เป็นชนวนเหตุการณ์เช่นกัน เขาเป็นยูทูเบอร์ที่ประสบความสำเร็จและได้รับการขนานนามว่าเป็น 'แพคจงวอนแห่งวงการยูทูเบอร์' ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีความน่าเชื่อถือเนื่องจากเคยออกรายการโทรทัศน์ แต่หลังจากที่พบว่าเขาอวดอ้างยอดขายที่สูงเกินจริงและ 'ปลอมแปลงความคิดเห็นและจำนวนผู้ชมในกลุ่มคาเฟ่เนเวอร์' ความเชื่อมั่นในตัวบรรดาผู้สร้างวิดีโอประเภทเดียวกันนี้ก็เริ่มพังทลายลง
ไม่ใช่ว่ายูทูเบอร์ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จจะมีปัญหา แต่ปัญหาของยูทูเบอร์ที่กำลังเป็นปัญหาคือพวกเขาใช้ 'เงิน' เป็นตัวกระตุ้นในการดึงดูดผู้คน แต่ 'เงิน' ที่พวกเขาพูดถึงนั้นเป็นเพียงตัวเลขที่ผิดพลาด ซึ่งนั่นก็ถือเป็นการหลอกลวงได้
ขั้นตอนแรกของการหลอกลวงนั้นเหมือนกับที่เคยเป็นมา เริ่มต้นด้วย 'การหลงเชื่อ'
การหลงเชื่อนั้นมักจะมี 'ภาพลักษณ์' ของความสำเร็จ เช่น บ้านหลังใหญ่ รถยนต์หรู ฯลฯ ปรากฏขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่ของพวกเขา พวกเขามักจะ 'เช่าระยะสั้นหรือเช่าซื้อ' เพื่อสร้างภาพลักษณ์ปลอมๆ เพื่อหลอกลวงผู้คน
และพวกเขาก็สัญญาว่าจะ 'ช่วยเหลือ' ในแบบฉบับของตัวเอง ในกรณีของผู้ขายความสำเร็จ พวกเขาจะกระซิบบอกอย่างหวานๆ ว่าใครๆ ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ตราบใดที่อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ฟังคำปรึกษา ทำกิจกรรมบางอย่างทุกวัน และปฏิบัติตาม
ผู้ขายความสำเร็จบนยูทูเบอร์มีผู้ติดตามที่คล้ายกับศาสนาเทียม พวกเขาซื้อเนื้อหาของ 'ผู้ขายความสำเร็จ' ซึ่งมีราคาแพงกว่าหนังสือของวอร์เรน บัฟเฟตต์หรือบิล เกตส์ที่ถือว่าประสบความสำเร็จที่สุด จิตใจของผู้คนที่ติดตามพวกเขาเหล่านี้คืออะไรกันแน่?
อันดับแรก พวกเขามี 'ความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและง่ายดาย' ถ้าอยากประสบความสำเร็จอย่างสุดใจ ก็จำเป็นต้องอยากให้มัน 'เร็ว' ผู้ขายความสำเร็จบนยูทูเบอร์มักพูดถึงความสำเร็จที่รวดเร็ว เช่น 'รับประกันว่าภายใน 3 เดือนจะได้เงินเดือนละ 10 ล้านวอน' ดังนั้น เส้นทางนี้จึงดูง่ายและรู้สึกว่าตัวเองก็ทำได้เช่นกัน
ถ้าอยากได้มากก็จะถูกเอาเปรียบได้ง่าย 3 เดือนได้เงินเดือนละ 10 ล้านวอนที่พวกเขาพูดถึงนั้นไม่ใช่ 'รายได้ที่ยั่งยืน' พวกเขาใช้ตัวเลขที่อาจจะได้มาครั้งเดียวในการหลอกลวงผู้ที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าและทำให้พวกเขาจ่ายเงินจำนวนมาก
จิตใจอีกอย่างหนึ่งของผู้ที่ติดตามผู้ขายความสำเร็จคือ 'ความไม่มั่นคงที่ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน' ผู้ขายความสำเร็จนิยามความสำเร็จเป็นเพียงแค่เงิน และบอกว่านั่นคือทางออกของทุกปัญหา สำหรับผู้ที่มีความไม่มั่นคงที่ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน 'เงิน = ความสำเร็จในชีวิต' เป็นทางออกที่ง่ายและรวดเร็วที่พวกเขาหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามันน่าสนใจ
ผู้เขียนคิดว่าข้อความ 'เงิน = ความสำเร็จในชีวิต' ที่ผู้ขายความสำเร็จส่งออกมานั้นอาจเป็นอันตรายต่อสังคมของเรา แน่นอนว่าเงินอาจเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จได้ แต่เราต้องระมัดระวังข้อความที่กำหนดความหมายของ 'ความสำเร็จ' ไว้เพียงแค่ 'เงิน' เท่านั้น
ความสำเร็จสามารถนิยามได้แตกต่างกันไปตามค่านิยมและเป้าหมายของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้ว ความสำเร็จถูกกำหนดให้เป็นการบรรลุเป้าหมายหรือผลลัพธ์ที่ต้องการ แต่สิ่งนี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
สำหรับบางคน ความสำเร็จอาจหมายถึงความก้าวหน้าในอาชีพ ในขณะที่คนอื่นอาจมองว่าการรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวให้มีความสุขเป็นความสำเร็จ นอกจากนี้ การใช้พรสวรรค์ของตนเองอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นก็อาจเป็นรูปแบบหนึ่งของความสำเร็จได้เช่นกัน
ความสำเร็จสามารถตีความได้แตกต่างกันไปตามค่านิยมและเป้าหมายของแต่ละบุคคล แต่เนื้อหาของผู้ขายความสำเร็จส่วนใหญ่จะกำหนดความสำเร็จไว้เพียง 'เงิน' เท่านั้นและจัดประเภทผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จว่าเป็น 'ผู้ล้มเหลว' ซึ่งอาจเป็นปัญหาได้
ถ้าเด็กอายุ 10-20 ปีที่กำลังสร้างค่านิยมเห็นข้อความที่ว่าความสำเร็จคือเงินเท่านั้นและความยากจนคือความล้มเหลว แล้วออกไปสู่สังคม สังคมนั้นก็จะกลายเป็นสังคมที่ป่วยเป็นแน่
ในปี 2564 ศูนย์วิจัย Pew Research Center ของสหรัฐอเมริกาได้ทำการสำรวจความคิดเห็นจากผู้ใหญ่ 19,000 คนใน 17 ประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมถึงเกาหลีใต้ โดยถามว่า 'อะไรคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย' ในบรรดา 17 ประเทศที่สำรวจ มี 14 ประเทศที่เลือก 'ครอบครัวและลูกๆ' เป็นอันดับ 1 ประเทศที่ไม่ได้เลือกครอบครัวเป็นอันดับ 1 คือ สเปน ไต้หวัน และเกาหลีใต้ โดยสเปนเลือกสุขภาพ ไต้หวันเลือกสังคม และเกาหลีใต้เลือก 'ความมั่งคั่งทางวัตถุ' เป็นอันดับ 1
เกาหลีใต้เป็นประเทศเดียวที่เลือกความมั่งคั่งทางวัตถุเป็นอันดับ 1 การสำรวจนี้บ่งชี้ว่าสังคมของเรากำลังหมกมุ่นอยู่กับความสำเร็จทางการเงินมากเกินไปมากกว่าความต้องการ 'ครอบครัว' หรือ 'ความสำเร็จส่วนบุคคลหรือการพัฒนาตนเอง'
วัฒนธรรมที่ทำให้ 'เงิน' เป็นมาตรวัดความสำเร็จเพียงอย่างเดียวพร้อมกับการทำลายคุณค่าต่างๆ ทำให้เกาหลีใต้มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุดและอัตราการเกิดต่ำสุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วของ OECD ซึ่งเกาหลีใต้มีความรับผิดชอบในส่วนหนึ่ง
ปฏิกิริยาของผู้คนต่อปรากฏการณ์ 'ผู้ขายความสำเร็จล่มสลาย' เป็นอย่างไร? จากการตรวจสอบความคิดเห็น พบว่ามีหลายความเห็นที่ว่า 'อันตรายที่สุดคือการดูถูกคุณค่าของแรงงาน'
ความคิดเห็นอีกอย่างหนึ่งคือ 'เป็นเพียงประเด็นที่ถูกพูดถึงเท่านั้น ไม่ใช่การล่มสลาย' และคำตอบที่น่าตกใจที่สุดคือ 'ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ผู้ขายความสำเร็จก็เลวร้ายไม่แพ้กัน' เขาชี้ให้เห็นว่า 'เพื่อดึงดูดผู้ชม พวกเขาจึงจงใจก่อเรื่องกับผู้ขายความสำเร็จ สร้างเนื้อหาที่เร้าอารมณ์อย่างมาก และทำให้พฤติกรรมของตนเองเป็นสิ่งที่ถูกต้องโดยอ้างว่ากำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง'
แม้ว่าการปลอมแปลงตัวเลขและการหลอกลวงผู้บริโภคจะเป็นเรื่องที่ควรประณาม แต่การละเมิดสิทธิ์ในการเผยแพร่ภาพและการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวอย่างเปิดเผยหรือการกระทำที่นำไปสู่ความล่มสลายนั้นไม่ใช่ทางออกที่ดี
แม้ว่าผู้วิพากษ์วิจารณ์จะพยายามวิพากษ์วิจารณ์และพยายามที่จะโค่นล้ม 'ผู้ขายความสำเร็จ' แต่ 'ผู้ขายความสำเร็จ' ก็จะไม่หายไป เพราะ 'ความปรารถนาที่จะหาเงินได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย' ของเราจะไม่หายไป ความต้องการมีมากมาย ดังนั้นจึงไม่สามารถหยุดการจัดหาได้
ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องนิยามความหมายของความสำเร็จให้แตกต่างกันไปตามค่านิยมและเป้าหมายของแต่ละบุคคล ผู้เขียนอยากจะเสนอแนะบางสิ่งให้กับผู้อ่านบทความนี้ ลองนิยาม 'ความสำเร็จของตัวเอง' ไม่ใช่มาตรฐานที่ผู้อื่นกำหนดหรือเงิน
สำหรับผู้เขียน ความสำเร็จคือ "การได้ทำในสิ่งที่รักกับคนที่รัก มีสุขภาพที่ดีและรู้สึกอุดมสมบูรณ์ พึงพอใจกับชีวิตและมีความสุขทุกวัน มีชีวิตที่มีเรื่องราวเป็นของตัวเอง"
ลองคิดดูว่าคุณอยากใช้ชีวิตแบบไหนและอยากแสวงหาคุณค่าอะไร แล้วนิยาม 'ความสำเร็จของตัวเอง' ดูสิ
※ ผู้เขียนบทความนี้คือตัวผู้เขียนเอง และบทความที่เขียนให้กับหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจสตรีได้ถูกย้ายมาที่นี่แล้ว
ความคิดเห็น0